หลายคนอาจจะสงสัยว่าราชภัฏกับวิทยาลัยครู คืออันเดียวกันหรือไม่ บ้างก็บอกว่าราชภัฏคือ มหาวิทยาลัย บ้างก็บอกว่า วิทยาลัยครู เป็นคล้าย ๆ วิทยาลัยอาชีวะ วิทยาลัยเทคนิค หากยังไม่ได้รู้จักประวัติศาสตร์อย่างแท้จริง แต่ถ้าน้อง ๆ ได้ลองถามคุณพ่อคุณแม่ คุณครู หรือคนที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป ว่า ราชภัฏ กับ วิทยาลัยครู ใช่อันเดียวไหม พวกท่านต้องบอกว่า “ ใช่ คืออันเดียวกัน ” เพราะแต่เดิม “ ราชภัฏ ” มีพื้นฐานเดิม คือโรงเรียนฝึกหัด ต่อมากลายเป็น วิทยาลัยครู ซึ่งในยุคนั้นเปิดสอนสาขาวิชาครุศาสตร์ จากนั้นก็มีการเปิดสอนในสาขาวิชาอื่นเพิ่มเติม จึงให้ต้องมีการเปลี่ยนชื่อจากวิทยาลัยครูเป็นราชภัฏ ถ้าหากน้อง ๆ อยากรู้ความเป็นมาของราชภัฏอย่างละเอียด ทาง riianroo ขอเชิญชมไปพร้อมกันได้เลยครับ
ยุคของโรงเรียนฝึกหัด

โรงเรียนฝึกหัดครู “สวนสุนันทาวิทยาลัย” ปัจจุบันคือ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
มหาวิทยาลัยวิทยาลัยราชภัฏมีฐานเดิมมากจาก “ โรงเรียนฝึกหัด ” เช่น โรงเรียนฝึกหัดอาจารย์, โรงเรียนฝึกหัดครูประจำมณฑล มีจุดเริ่มต้นดังนี้
โรงเรียนฝึกหัดอาจารย์แห่งแรกทำการสอนเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม พ.ศ.2435 บริเวณโรงเลี้ยงเด็ก ตำบลสวนมะลิ ถนนบำรุงเมือง จังหวัดพระนคร(ปัจจุบันคือ มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร) จากนั้นจึงขยายไปตั้งทุกภาคของประเทศ
จากนั้นในปี พ.ศ. 2462 จึงตั้งโรงเรียนฝึกหัดครูประจำมณฑลนครราชสีมา(ปัจจุบันคือ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา และมณฑลนครศรีธรรมราช (ปัจจุบันคือ มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา)
ในปี 2466 ได้จัดตั้งโรงเรียนฝึกหัดครูกสิกรรมมณฑลอุดร (ปัจจุบันคือ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี) บริเวณสโมสรเสื่อป่ามณฑลอุดรธานี และมณฑลพายัพ ณ บ้านเวียงบัว จังหวัดเชียงใหม่ (ปัจจุบันคือ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่)
ปี พ.ศ.2483 จัดตั้งโรงเรียนฝึกหัดครูมัธยม (ปัจจุบันคือ มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม) เพื่อเปิดสอนในระดับฝึกครูมัธยม โดยรับนักเรียนที่สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนฝึกหัดครูประถม (ป.ป.) และนักเรียนที่สำเร็จการศึกษาจากชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 8 มาศึกษาต่อเพื่อเลื่อนจากฐานะครู ป.ป. เป็นครู ป.ม.
ยุคของวิทยาลัยครู

วิทยาลัยครูจันทบุรี ปัจจุบันคือ มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี
ต่อมาเมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2503 กระทรวงศึกษาธิการประกาศยกฐานะจาก โรงเรียนฝึกหัดครู โรงเรียนฝึกหัดครูกสิกรรม โรงเรียนฝึกหัดครูมัธยม ให้เป็น “ วิทยาลัยครู ” พร้อมกับการเปิดสอนในหลักสูตรประกาศนียบัตรทางการศึกษา (ปก.ศ.) , ประกาศนียบัตรบัตรทางการศึกษาชั้นสูง (ปก.ศ.สูง) , ปริญญาตรีครุศาสตร์บัณฑิต (ค.บ.) โดยให้เป็นสถาบันอุดมศึกษา สังกัดกรมการฝึกหัดครู กระทรวงศึกษาธิการ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2503 โดยมีวิทยาลัยครูที่เปิดสอนดังนี้
- วิทยาลัยครูสวนดุสิต
- วิทยาลัยครูสวนสุนันทา
- วิทยาลัยครูพระนคร
- วิทยาลัยครูธนบุรี
- วิทยาลัยครูสงขลา
- วิทยาลัยครูอุดรธานี
- วิทยาลัยครูมหาสารคาม
- วิทยาลัยครูเลย
- วิทยาลัยครูเชียงใหม่
- วิทยาลัยครูสงขลา และอื่น ๆ ที่ไม่ได้ยกตัวอย่างมานี้
ต่อมาในยุคปี 2527 – 2530 วิทยาลัยครูไม่ได้เปิดสอนในแค่สาขาวิชาการเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ดังนั้นจึงมีการเปิดสาขาวิชาอื่นเพิ่มเติม เช่น สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ สาขาวิชาศิลปศาสตร์ เพื่อขยายการศึกษาให้กว้างขึ้น
ยุคของ “ราชภัฏ”

สถาบันราชภัฏอุดรธานี ปัจจุบันคือ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี
ยุคตอนปลายของวิทยาลัยครูมีการเปิดสอนสอนสาขาวิชาอื่นเพิ่มเติม ดังนั้น ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2535 (โดยเอาวันนี้เป็นวันราชภัฏของทุกปี) พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้พระราชทานนามว่า “ ราชภัฏ ” มีความหมายว่า ข้าของแผ่นดิน ส่งผลให้วิทยาลัยครูทั่วประเทศ เปลี่ยนชื่อเป็น สถาบันราชภัฏ ต่อมาในปี 2540 มีการอนุมัติจัดตั้งสถาบันราชภัฏเพิ่มจำนวน 5 แห่งเพื่อกระจายโอกาสทางการศึกษาสู่ภูมิภาคมากขึ้น
- สถาบันราชภัฏชัยภูมิ
- สถาบันราชภัฏศรีสะเกษ
- สถาบันราชภัฏนครพนม
- สถาบันราชภัฏกาฬสินธุ์
- สถาบันราชภัฏร้อยเอ็ด
เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2547 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้ลงพระปรมาภิไธย “ พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยราชภัฏ พ.ศ. 2547 ” และประกาศในกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2547 อันเป็นผลให้สถาบันราชภัฏทั่วประเทศ เปลี่ยนชื่อเป็นมหาวิทยาลัยราชภัฏจนถึงปัจจุบัน
โดยในปัจจุบันมีมหาวิทยาลัยราชภัฏเปิดสอนทั้งหมด 38 แห่ง ยกเว้น มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต เป็นเปลี่ยน มหาวิทยาลัยสวนดุสิต, มหาวิทยาลัยราชภัฏกาฬสินธุ์ เป็นเปลี่ยน มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์, มหาวิทยาลัยราชภัฏพนครพนม เป็นเปลี่ยน มหาวิทยาลัยนครพนม
น้อง ๆ โดยเฉพาะคนที่เรียน ม.6 คงเห็นแล้วใช่ไหมว่า ประวัติศาสตร์ของ “ ราชภัฏ ” นั้นมีนายาวนานแค่ไหน หากน้องคนไหนกำลังเล็งหาเรียนก็ลองดูมหาวิทยาลัยราชภัฏเป็นตัวหนึ่งในตัวเลือกก็ได้นะครับ
แนะนำบทความที่น่าสนใจ
หลาย ๆ คนน่าจะต้องมีการตั้งคำถามในลักษณะที่ว่า อยากมีเงินเก็บ เริ่มวางแผนการเงินอย่างไรดี แน่นอน ส่วนจะต้องทำอย่างไรบ้าง ตามไปดูกันได้เลย

More Stories
5 มหาวิทยาลัยทั่วโลก ที่หลายคนใฝ่ฝันอยากไปเรียน
อยากเป็นอาชีพอะไร ต้องเรียนคณะไหน
10 หอพักสุดคูลน่าอยู่ที่สุดในโลก